วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

งานช่างปูน ม.5

ช่างปูน
Plastering

           ช่างปูน เป็นช่างประเภทหนึ่งในจำพวกช่างสิบหมู่ งานของช่างปูน เป็นงานสร้างทำอาคารสถานชนิดเครื่อง ก่อประเภท เจติยสถานและศาสนสถานต่างๆ เช่น พระสถูปเจดีย์ พระพุทธปรางค์เจดีย์ พระอุโบสถ พระวิหาร ฐานชุกชี ซุ้มคูหา กับได้ทำพระมหาปราสาท พระราชมณเฑียร แท่นฐาน เกยราชยาน ประตู เครื่องยอดต่างๆ ใบเสมา กำแพงและป้อมปราการ เป็นต้น และงานของช่างปูนยังเนื่องด้วยการปั้นปูนอีกด้วย

ช่างปูน
งานปูน จัดเป็นงานช่างเก่าแก่ จำพวกหนึ่งที่ในสยามประเทศนี้ ทั้งนี้พึงเห็นได้จากซากโบราณสถานประเภท เจติยสถาน ชนิดเครื่องก่ออิฐถือปูนทำลวดบังประกอบส่วนต่างๆ อย่างประณีตแสดงฝีมือและความสามารถช่างปูน ชั้นสูง แต่ทว่าหลักฐานความเป็นมาของช่างปูนรุ่นเก่าๆ นั้นไม่สู้มีหลักฐานสิ่งอื่นๆ แสดงให้ทราบได้ว่าเป็นช่างพวก ใดเป็นผู้สร้างทำ นอกเสียจากรูปแบบที่แสดงฝีไม้ลายมือฝากไว้เท่านั้น
           งานปูน หรืองานช่างปูนแต่สมัยก่อน มีชื่อเรียกเป็นคำเก่าอีกอย่างหนึ่งว่า "สทายปูน" งานของช่างปูน อาจจำแนกลักษณะงานของช่างปูนออกได้เป็น ๒ ลักษณะ ด้วยกันคือ
ช่างปูนงานก่อ
           ช่างปูนจำพวกนี้ ทำงานในลักษณะการก่อวัสดุชนิดต่างๆ เช่น อิฐ หิน ศิลาแลง เป็นต้น ขึ้นเป็นรูปทรงสิ่ง ต่างๆ ตั้งแต่ขนาดเล็ก เช่น ก่อเขามอขึ้นอ่าง ไปจนกระทั่งก่อพระสถูปเจดีย์ ก่อพระพุทธปรางค์เจดีย์ หรือได้ทำการ ในด้านบูรณะปฏิสังขรณ์ เครื่องหิน เครื่องอิฐก่อที่ชำรุดให้คืนดีขึ้นดั่งเดิม
ช่างปูนงานลวดบัว
           ช่างปูนจำพวกนี้ ทำงานในลักษณะการถือปูนทำผิวเป็นลวดบัวแบบต่างๆ เช่น บัวคว่ำ บัวหงาย บัวหลังเจียด บัวปากปลิง บัวลูกแก้ว บัวอกไก่ สำหรับประกอบทำฐานลักษณะต่างๆ เป็นต้นว่า ฐานเชิง บาตร ฐานเท้าสิงห์ ฐานปัทม์ ฐานเฉียง ฐานบัวจงกล ฯลฯ หรือทำการถือปูนจับเหลี่ยมเสาแบบต่างๆ คือ เสาแปดเหลี่ยม เสาย่อมุมไม้สิบสอง เสากลม เป็นต้น
           งานปูนที่เป็นงานในหน้าที่ของช่างปูนดังกล่าวมีวัตถุปัจจัยสำคัญสำหรับงาน คือ ปูน ซึ่งช่างปูนได้ใช้ในงาน ก่อ ฉาบ และถือปูนเป็นสิ่งต่างๆ มาแต่โบราณ การผสมปูนนี้ ช่างปูน บางคนได้ผสมเนื้อปูนให้มีคุณภาพเหนียวและ คงทนถาวรอยู่ได้นานปี บางคนใช้กระดาษฟางบ้าง หัวบุบุก หัวกลอยบ้าง แม้หัวต้นกระดาษก็ใช้ตำผสมเข้ากับเนื้อ ปูน เพื่อช่วยเสริมความเหนียวและยึดตัวดี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อและประสบการณ์ของช่างปูนแต่ละคน
           งานช่างปูนนี้ เมื่อจะทำการคราวหนึ่งๆ จึงทำปูนขึ้นเฉพาะงานคราวนั้น จะทำเตรียมไว้ล่วงหน้านานเป็นแรม เดือนไม่ได้ การทำปูนเตรียมไว้สำหรับงานก่อ ฉาบ จับ ถือปูนเป็นงานค่อนข้างหนักแรง เพราะต้องใช้แรงตำปูนกับ สิ่งที่ผสมร่วมกันนานกว่าจะเข้าเป้นเนื้อเดียวและเหนียวได้ที่ ในการงานช่วงนี้ มักเป็นภาระหน้าที่ของลูกมือ ช่างปูนตำปูนให้แก่ช่างปูน แต่ในบางกรณีที่ช่างปูนได้ทำงานก่อ งานปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม ที่เป็นงานของหลวง อุปถัมภ์การพระศาสนา มักมีชาวบ้านสมัครมาช่วยตำปูน เป็นการร่วมทำบุญสร้างกุศลด้วยการโขลกตำปูนถวายวัด บุญกิริยาเช่นนี้ จึงเกิดเป็นธรรมเนียมขึ้นในสมัยก่อน เมื่อมีการสร้างหรือซ่อมปูชนียสถาน หรือศาสนสถานอย่างหนึ่ง อย่างใดที่เป็นชนิดเครื่องก่อขึ้นในวัด ชาวบ้านวัยหนุ่มวัยสาวจะสมัครมาช่วยกันตำปูนเตรียมไว้สำหรับช่างปูน จะได้ใช้งานตำปูนนี้จะทำกันในตอนหัวค่ำภายหลังเสร็จธุระประจำวันแล้ว ตั้งครกตำปูนเรียงรายกันหลายๆ ลูกครก ตำปูนนี้โดยมากใช้ครกกระเดื่องซึ่งจะช่วยผ่อนแรงตำได้มาก เมื่อตำปูนเหนียวได้ที่ครกหนึ่งๆ ก็ตักเอาไปพักไว้ใน อ่างดิน เอาผ้าหรือฟางชุบน้ำคลุมปิดไว้ให้ปูนชื้นพอแก่เวลาที่ช่างปูนจะมาเอาไปใช้ในวันรุ่งขึ้น อนึ่ง ปูนที่จัดการ โขลกตำเตรียมไว้นี้ยังไม่ต้องใส่เชื้อน้ำตาล จะใส่เชื้อน้ำตาลก็ต่อเมื่อช่างปูนจะใช้ปูน จึงใส่เชื้อดังกล่าวเอาเองตาม ส่วนหรือขนาดที่เข้าใจ ธรรมเนียมชาวบ้านช่วยตำปูนถวายวัดนี้ นอกเสียจากเป็นบุญกิริยาแล้วยังอาจกล่าวได้ว่า เป็นโอกาสสำหรับคนหนุ่มสาวได้มาสมาคมกันได้โดยผู้ใหญ่ไม่สู้เดียดฉันท์
           ช่างปูนที่เป็นช่างปูนงานก่อก็ดีช่างปูนงานลวดบัวก็ดี ช่างประเภทนี้ ใช้เครื่องมือที่จำเป็นอยู่ ๒-๓ อย่าง คือ
           เกรียงเหล็ก ขนาดต่างๆ
           เกรียงไม้
           ประทับหรือบรรทัด ถือลวดบัว หรือจับเหลี่ยม
           ครก และสากไม้
           ตะแกรง สำหรับร่อนปูน และทราย
           อ่างดิน สำหรับพักหรือหมักปูน
           ช่างปูน เป็นช่างฝีมือที่ได้ใช้ความสามารถของฝีมือสร้างทำปูนให้เป็นรูปลักษณ์ที่ประกอบไปด้วยศิลป ลักษณะ มีความงามและคุณค่าเชิงประณีตศิลป์ ฉะนี้ช่างปูนจึงได้รับการยอมรับและจัดรวมเข้าในหมู่ช่างสิบหมู่ด้วย สาระสำคัญของช่างปูนตามที่ได้อธิบายมานี้
การเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ช่างปูน
งานพื้นคอนกรีต
พื้นอาคารทั่วไปใช้พื้นสำเร็จรูปชนิดท้องเรียบ รับน้ำหนักปลอดภัยได้ 200 กิโลกรัม / ตารางเมตร ซึ่งโดยปกติกฎหมายกำหนดไว้ 150 กิโลกรัม / ตารางเมตร ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงแข็งแรง และมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น สำหรับการเลือกใช้พื้นสำเร็จรูปชนิด 3 ขา ของบริษัทผู้ผลิตแผ่นพื้น PCM แทนการใช้แผ่นพื้นชนิดท้องเรียบ(แบบเดิม) ทั้งนี้เพราะจุดเด่นของแผ่นพื้นชนิด 3 ขา คือเมื่อติดตั้งแผ่นพื้นไม่ต้องทำการค้ำยันกลาง เนื่องจากแผ่นพื้นถูกออกแบบมาเป็นคานรับน้ำหนักในตัวอยู่แล้ว ทำให้แผ่นพื้นไม่แอ่นกลางขณะติดตั้งและเทคอนกรีตทับหน้า
ข้อพึงปฏิบัติ
1. พื้นสำเร็จรูปควรใช้ชนิด 3 ขา เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดจากการแอ่นตัวของพื้น ขณะที่ทำการเทคอนกรีตทับหน้า
2. การค้ำยันถ้าความยาวแผ่นพื้นเกินกว่า 4.00 เมตร ควรมีค้ำยันชั่วคราวตามแนวกึ่งกลางของความยาวแผ่นพื้น
3. หลีกเลี่ยงการสกัดหลังคาน ค.ส.ล. เพื่อปรับระดับการวางแผ่นพื้น
4. การเทคอนกรีตทับหน้า(Topping) ให้ใช้ตระแกรงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 มม. ระยะห่าง 20 เซ็นติเมตร ความหนาคอนกรีตทับหน้า 4 เซ็นติเมตร หรือตะแกรง Wire Mesh ขนาด 4 มม. @ 20 เซนติเมตร ควรหลีกเลี่ยงการเทคอนกรีตทับหน้าหนากว่าที่กำหนด เพราะจะทำให้เพิ่มการรับน้ำหนักของพื้นและโครงสร้างอาคาร
5. คอนกรีตพื้นชั้นล่างควรผสมน้ำยากันซึม เพื่อป้องกันความชื้นจากพื้นดินที่อาจส่งผลกระทบต่อวัสดุปูผิวพื้น เช่น กระเบื้อง ไม้ปาร์เกต์ เป็นต้น โดยได้รับความเห็นชอบจากวิศวกร

งานคอนกรีต

ความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างอาคารมีความสำคัญยิ่ง ที่จะทำให้บ้านที่สร้างมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับ คอนกรีต ในงานโครงสร้างอาคาร โดยการเลือกใช้คอนกรีตผสมเสร็จจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐานในงานโครงสร้าง เสา, คาน, และพื้น เพราะสามารถควบคุมคุณภาพและส่วนผสมของ ปูนซิเมนต์ หิน ทราย และน้ำ ตามมาตรฐานวิศวกรรม ทำให้ได้คุณภาพที่แน่นอน กว่าการใช้โม่ผสมเอง ไม่เกิดความเสียหายแก่คอนกรีตโครงสร้าง และทำให้บ้านมีอายุการใช้งานยาวนาน
นอกจากนี้ในส่วนของโครงสร้างคานชั้นหลังคานั้น วิศวกรของบริษัทฯ ได้กำหนดเป็นมาตรฐาน โดยให้คานโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กเท่านั้น(ไม่ใช้เหล็กรูปพรรณ) ทั้งนี้เพื่อให้โครงสร้างของบ้านมั่นคงแข็งแรง มีความคงทนและมีอายุการใช้งานของอาคารที่ยาวนานขึ้น
ข้อพึงปฏิบัติ
1. การเทคอนกรีตโครงสร้างแต่ละประเภท ควรเทคอนกรีตให้ต่อเนื่องจนแล้วเสร็จในคราวเดียว ถ้าต้องมีการหยุดเทคอนกรีตให้หยุดเทคอนกรีตได้ตามตำแหน่งที่วิศวกรกำหนด เช่น เสา หยุดเทที่ระดับท้องคานที่เสารองรับและต้องเป็นแนวระดับ , คาน หยุดเทได้ที่กึ่งกลางคานและแนวที่หยุดต้อเป็นแนวดิ่ง ฯลฯ เป็นต้น
2. ขณะเทคอนกรีต ควรให้มีผู้ควบคุมงานหรือวิศวกรอยู่ประจำระหว่างเทคอนกรีต เพื่อคอยควบคุมการเทคอนกรีตให้เป็นไปตามข้อกำหนด

งานฉาบปูน
จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและข้อกำหนดของผู้ผลิตปูนซเมนต์ชนิดฉาบ ผิวปูนฉาบจะต้องเรียบสม่ำเสมอกัน โดยเฉพาะบริเวณมุมผนัง มุมเสา จะต้องฉาบแต่งให้ได้มุมฉาก ซึ่งสามารถตรวจสอบได้โดยการใช้แผ่นกระเบื้องเคลือบหรือเหล็กฉากทาบเข้าบริเวณมุมผนัง นอกจากนี้บริเวณตำแหน่งที่ทำการฝังบล็อคไว้ในผนังก่ออิฐเพื่อติดตั้งสวิตท์ - ปลั๊ก ควรตกแต่งผิวปูนโดยรอบเพื่อความเรียบร้อยของงานฉาบ
ข้อพึงปฏิบัติ
1. ก่อนฉาบให้ทำการติดลวดตาข่าย เช่น มุมวงกบ – ด้านล่าง - บนประตู - หน้าต่าง, รอยต่อเสาคาน
2. ใช้ปูนฉาบชนิดฉาบคอนกรีตมวลเบาเท่านั้น ห้ามใช้ปูนฉาบชนิดธรรมดา ฉาบบนผนังคอนกรีตมวลเบา เพราะมีโอกาสหลุดร่อน และแตกร้าวสูง เพราะไม่มีคุณสมบัติยึดเหนี่ยวเพียงพอ
3. บริเวณมุมหรือขอบผนัง ให้ใช้เซี้ยมสำเร็จรูป ซึ่งจะทำให้งานเสร็จเร็ว และคุณภาพดีขึ้น
งานฝ้าเพดาน , บัวมอบพื้น . บัวมอบฝ้าเพดาน

                                           การก่ออิฐแบบต่างๆ ก่อนก่ออิฐจะต้องมีเหล็กยื่นจากเสา เพื่อประสาน ผนังให้เชื่อมต่อกับเสาได้ดี อิฐที่นำมาก่อต้องทำให้อิ่มน้ำ ก่อน ให้เริ่มก่ออิฐจากตอนมุมเสาก่อน และต้องจับดิ่งตอน มุมไว้เสมอ รวมทั้งรักษาแนวก่อโดยขึงเอ็นไว้ การก่อผนัง สูงๆ ควรก่อไม่เกิน 1.20 เมตร ทิ้งผนังให้ปูนก่อแข็งตัว ก่อนแล้วจึงก่ออิฐต่อได้ เมื่อก่ออิฐถึงใต้ท้องคานให้เว้นระยะ 1 1/2-2 ซม. ก่อนฉาบผนังจะต้องอัดปูนทรายล่วงหน้าอย่าง น้อย 1 วัน โดยอัดทั้งสองข้างเพื่อป้องกันการแตกร้าว กรณี ที่ผนังก่ออิฐสูงเกิน 3 เมตร ต้องมีทับหลัง ค.ส.ล. แบ่งครึ่ง ความสูง และผนังอิฐที่กว้างเกิน 4 เมตร จะต้องมีเสาเอ็น ค.ส.ล. แบ่งครึ่งกำแพงก่ออิฐเต็มแผ่นก็คือการก่ออิฐที่วางแผ่นอิฐ (มอญ) ตามขวางของผนัง ทำให้ ผนังนั้นมีความหนามากกว่าปกติ เมื่อฉาบปูนแล้วผนังนั้นอาจจะหนาประมาณ ๑๕ - ๒๐ เซ็นติเมตร ส่วนก่ออิฐครึ่งแผ่นก็คือ ก่ออิฐที่วางแผ่นอิฐ (มอญ) ตามยาวของ ผนัง ทำให้ผนังนั้นมีความหนาเป็นปกติที่เราเห็นกันโดยทั่วไป คือ เมื่อฉาบปูนเสร็จ เรียบร้อยแล้ว จะหนาประมาณ ๑๐ เซ็นติเมตร

                                                  ปูนก่อ 
เป็นปูนก่อสำเร็จรูปผสมน้ำใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องผสมสารใดๆ เพิ่มอีก มีลักษณะเป็นปูนกาวเนื้อละเอียด แรงยึดเหนี่ยวสูง ไม่ย้อยตัว ผสมโดยใช้หัวปั่นปูนต่อเข้ากับสว่านไฟฟ้าใช้งานร่วมกับเกรียงก่อ Q-CON ความหนาปูนก่อ 2-3 มม. ช่วยให้ก่อได้รวดเร็ว ปูนก่อไม่ตกหล่นเสียหาย แรงยึดเหนี่ยวระหว่างก้อนมีความแข็งแรง และประหยัด
1. ปูนก่อ นิยมใช้ส่วนผสมของปุนซีเมนต์ 1 ส่วนกับทรายละเอียดหรือปานกลางที่สะอาด 3ส่วนด้วยการตวงผสมให้ เข้ากันแล้ว ใส่น้ำให้ มีความข้นเหลวพอเหมาะที่จะทำงานได้




ปูนฉาบ

ปูนฉาบ ใช้ส่วนผสมของปูนซีเมนต์:ปูนขาว:ทราย ในอัตราส่วน 1:1:3 กับน้ำที่พอเหมาะในการฉาบครั้งแรก และ 1:2:6, 1:1:6 กับน้ำที่พอเหมาะในการฉาบครั้งที่ 2 หรือครั้งที่ 3 ตามลำดับ โดยทั่วไปนิยมตวงปูนขาวและทรายที่ร่อนแล้วในอัตราส่วน 1:3 นำไปคลุกกันให้เข้ากกันดี แล้วหมักไว้น้อยกว่า 24 ชั่วโมง การฉาบปูนควรฉาบอย่างน้อย 2 ชั้น ชั้นแรกควรฉาบทิ้งไว้ 1 วันแล้วจึง เริ่มฉาบชั้นที่ 2 โดยมีความหนาแต่ละชั้นไม่เกิน 1.5 เซนติเมตร และรวม 2 ชั้นประมาณ 2.5 เซนติเมตรก่อนที่จะเริ่มลงมือฉาบ ต้องมีการเตรียมพื้นที่ผิวที่จะฉาบ โดยทำความสะอาดและทำให้ชุ่มน้ำพอสมควร เพื่อไม่ให้ดูดน้ำจากส่วนผสมเร็วเกินไปพื้นที่ผิวควร เป็นระนาบเดียวกัน ถ้าเป็นผิวคอนกรีตที่เรียบมากควรทำให้หยาบเสียก่อน เพื่อให้ปูนฉาบยึดติดได้ดีและก่อนฉาบครั้งที่ 2หรือชั้น สุดท้าย ในกรณีนี้ก็ควรทำผิวให้ชุ่มน้ำก่อนเช่นเดียวกัน และอาจต้องใช้น้ำพรมตลอดเวลาในการแต่งปูนเมื่อแต่งเสร็จแล้วก็ควร พรมน้ำต่อไป เพื่อเป็นการบ่มไม่ให้ปูนฉาบแห้งเร็ว ซึ่งจะทำให้ปูนฉาบแข็งแรงทนทานและไม่แตกร้าว
เป็นปูนฉาบสำเร็จรูปผสมน้ำในปริมาณที่พอเหมาะใช้งานได้ทันทีหลังจากพรมน้ำที่ผนังแล้ว ความหนาของปูนฉาบบางประมาณ 5-10 มม. เนื้อละเอียด เหนียวลื่น ฉาบง่าย ยึดเกาะดี ไม่ย้อยตัว ไม่แตกร้าวลายงา ลดปัญหาซ่อมงาน และยังฉาบได้พื้นที่มากกว่าปูนฉาบทั่วไปกว่า 30% เมื่อน้ำหนักปูนฉาบเท่ากัน





การให้บริการงานช่างปูน

1.ลักษณะของงานปูนที่ชำรุดนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายลักษณะซึ่งอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุต่างๆพอสรุปได้ดังนี้
1.รอยแตกร้าวจากการหดตัวของปูนหรือคอนกรีตรอยแตกร้าวเหล่านี้ส่วนมากเกิดขึ้นจากส่วนผสมของคอนกรีตเนื่องจากใส่นำ้
มากเกินไปทำให้ส่วนผสมเหลวเมื่อเทลงไปในแบบแล้วทิ้งไว้ให้แห้งแข็งตัวทำให้รอยต่อระหว่างคอนกรีตทั้งสองไม่ติดกันดังนั้นที่รอยต่อต้องเผื่อการหดตัวและขยายตัวไว้ด้วย
2.รอยแตกร้าวจากการหดตัวที่เกิดจากกำลังแรงเค้นภายในมารวมตัวพบกันที่มุมเกิดจากแรงที่เกิดขึ้นภายในคอนกรีตเมื่อคอนกรีตแห้งลงทำให้เกิดการร้าวขึ้นที่มุมของอาคารซึ้งทำให้เกิดการชำรุดได้ดั้งนั้นต้องทำรอยต่อเผื่อไว้สำหรับการหดตัวหรือขยายตัวของคอนกรีตหรืออาจเสริมเหล็กไว้เพื่อป้องกันก็ได้
3.รอยแตกร้าวที่เกิดจากการทรุดตัวของอาคารรอยแตกร้าวเหล่านี้มีอันตรายมากสำหรับการก่อสร้างเพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้วจะทำให้เกิดการเสียหายมากต่ออาคารที่สร้างอาจยุบพังลงมาก็ได้ซึ้งทำให้เสียชีวิตและทรัพย์สินอีกด้วยดังนั้นก็มีหนทางป้องกันได้โดยการทำรากฐานของอาคารที่มั้นคงและรับน้ำหนักของอาคารได้อย่างเหมาะสมตามหลักการคำนวณของวิศวกรถ้าหากว่าฐานรากเล็กเกินไปแล้วนำไปใช้กับอาคารหลายชั้นที่มีน้ำหนักมากจะทำให้พังลงมาได้
4. รอยแตกร้าวจากอาคารหดตัวที่มุมประตูหรือหน้าต่างเกิดจากการผสมปูนซึ่งอาจเนื่องจากใส่น้ำมากเกินไปก็ได้จึงทำให้มีการหดตัวมากรอยแตกร้าวเหล่านี้จะป้องกันได้โดยการทำรอยต่อเพื่อไว้สำหรับการหดตัวและขยายตัวหรืออาจเสริมเหล็กให้เป็นกำแพงคอนกรีต จะกำจัดรอยแตกเหล่านี้ไว้น้อยที่สุดโดยการเทคอนกรีตที่มีการยุบตัวน้อยสุด
2.วิธีซ่อมแซมงานปูนที่ชำรุด
1.รอยแตกร้าวจากการหดตัวของปูนหรือคอนกรีต มีการแก้ไขด้วยการผสมอัตราส่วนผสมให้เหมาะสมกับงานและถูกต้องที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำที่ใช้ผสมนั้นจะต้องไม่มากหรือน้อยเกินไป
2.รอยแตกร้าวจากการหดตัวที่เกิดจากกำลังแรงเค้นภายใน อาจมีวิธีแก้ไขได้โดยการทำรอยต่อเผื่อไว้สำหรับการการหดตัว หรือการขยายตัวของคอนกรีต หรืออาจเสริมเหล็กตรงรอยต่อระหว่างคอนกรีตทั้งสองก็ได้
3.รอยแตกร้าวจากการทรุดตัวของอาคาร อาจมีวิธีแก้ไขได้โดยจากจุดเริ่มต้นของอาคาร โดยเฉพาะที่ฐานรากเสาเข็มที่นำมาใช่นั้น จะต้องให้สามารถรับน้ำหนักของอาคารได้อย่างเหมาะสมตามที่วิศวกรคำนวณมาให้ ไม่ควรจะนำเสาเข็มที่เล็กหรือสั้นเกินไปมาใช้ในการก่อสร้างอาคารเพราะถ้าหากรับน้ำหนักไม่ได้แล้ว จะทำให้อาคารทรุดลงมา หรืออาจทำให้พังทลายลงมาได้ซึงยากแก่การแก้ไข ทางที่ดีแล้วจะต้งคำนึงถึงให้มาก ในการทำฐานรากของอาคารไม่ควรจะเสียดายหรือประหยัดจนเกิน ซึงอาจจะทำให้เสียผลมาก
4.การซ่อมแซมงานปูนที่ชำรุด โดยการซ่อมแซมจากโครงสร้างที่สามารถจะซ่อมแซมได้ก่อน ที่พอจะแก้ไขได้ เพื่อไม่ให้ชำรุดไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าเป็นรอยร้าวที่ไม่มากนัก ก็อาจจะสกัดปูนเดิมออกบ้าง เท่าที่จะสกัดออกได้ และนำปูนใหม่มาเสริมเข้าไป ซึ่งพอจะแก้ไขได้




1 ความคิดเห็น:

  1. ***คะแนนที่ได้ 7 คะแนน***
    1. ความหมายของงานช่างปูน (มี)
    2. การใช้งานอุปกรณ์งานช่างปูน (มี)
    3. การดูแลรักษาเครื่องมืองานช่างปูน (มี)
    4. ความปลอดภัยในการใช้เครื่องมืองานช่างปูน (ไม่มี)
    5. ต้องจัดรูปแบบข้อความ ใส่รูปภาพ หรือคลิปวิดีโอ อุปกรณ์งานปูนพร้อมอธิบาย การใช้งาน (มี)
    6. พร้อมบอกชื่อเว็บไซด์อ้างอิงเนื้อหาทุกบทความ (มี)

    ตอบลบ